Vinylon: เส้นใยสังเคราะห์ที่ทนทานและกันน้ำ!
ในโลกของวัสดุ composite ที่หลากหลาย Vinylon นับว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง วัสดุชนิดนี้จัดเป็นเส้นใยสังเคราะห์ชนิดหนึ่ง ที่โดดเด่นด้วยคุณสมบัติความทนทาน กันน้ำ และความเหนียว ซึ่งทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม
Vinylon เป็นผลงานวิจัยของนักเคมีชาวญี่ปุ่น Kenichi Hayashi ในปี ค.ศ. 1939 โดยมีชื่อเรียกตามความหมายว่า “vinyl nylon” ซึ่งระบุถึงองค์ประกอบหลักที่เป็น polyvinyl alcohol (PVA) และคุณสมบัติคล้ายกับไนลอน
คุณสมบัติโดดเด่นของ Vinylon
Vinylon แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความทนทานสูงเมื่อเทียบกับเส้นใยสังเคราะห์ชนิดอื่น ๆ โดยมีความต้านแรงดึงสูง และทนต่อการฉีกขาด นอกจากนี้ Vinylon ยังมีคุณสมบัติกันน้ำได้ดีเยี่ยม ซึ่งทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการผลิตสิ่งทอที่ต้องสัมผัสกับความชื้นอย่างต่อเนื่อง
ตารางแสดงคุณสมบัติของ Vinylon เมื่อเทียบกับเส้นใยสังเคราะห์อื่น ๆ
คุณสมบัติ | Vinylon | ไนลอน | โพลีเอสเตอร์ |
---|---|---|---|
ความต้านแรงดึง (MPa) | 50-80 | 40-60 | 30-50 |
ความยืดหยุ่น (%) | 20-30 | 15-25 | 10-20 |
การดูดซึมน้ำ (%) | < 1 | 4-8 | < 1 |
การใช้งาน Vinylon ในอุตสาหกรรม
ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่น Vinylon จึงถูกนำไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม
- อุตสาหกรรมสิ่งทอ: Vinylon ถูกนำมาผลิตเป็นเสื้อผ้าและสิ่งทอประเภทต่างๆ เช่น เสื้อกีฬา, ชุดว่ายน้ำ, และผ้ากันฝน เนื่องจากความแข็งแรง ทนทาน และกันน้ำ
- อุตสาหกรรมการแพทย์: Vinylon ถูกใช้ในการผลิตวัสดุทางการแพทย์ เช่น แถบพันแผลและผ้าพัน gauze เนื่องจากมีความปลอดภัย และไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้
กระบวนการผลิต Vinylon
Vinylon ผลิตจาก polyvinyl alcohol (PVA) ซึ่งถูกนำมาผ่านกระบวนการปรับสภาพทางเคมี เพื่อเพิ่มความแข็งแรง ทนทาน และกันน้ำ จากนั้น PVA ที่ผ่านการปรับสภาพจะถูกสปินเป็นเส้นใย และถูกรีดให้มีความหนาตามต้องการ
ข้อดีและข้อเสียของ Vinylon
ข้อดี:
- ความแข็งแรงและทนทาน
- คุณสมบัติกันน้ำได้ดีเยี่ยม
- ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับเส้นใยสังเคราะห์ชนิดอื่น
ข้อเสีย:
- ความทนทานต่อความร้อนต่ำกว่าเส้นใยสังเคราะห์ชนิดอื่น
- ความสามารถในการย้อมสีค่อนข้างจำกัด
Vinylon ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ เนื่องจากคุณสมบัติที่โดดเด่น
นอกจากนี้ Vinylon ยังถือเป็นวัสดุ composite ที่มีอนาคตไกล เนื่องจากความต้องการของตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีความแข็งแรง ทนทาน และกันน้ำนั้นยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง